ในปีพ.ศ.2563 จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID 19) โรงเรียนต้องปิดทำการเรียนการสอนก่อนกำหนด โคนมผลิตน้ำนมทุกวันเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมจึงมีน้ำนมดิบเหลือในปริมาณมากและต้องทิ้งไปอย่างน่าเสียดาย ส่งผลกระทบต่อรายได้ของเกษตรกรและพนักงานโรงนมกว่า 60 ชีวิต ศูนย์ผลิตภัณฑ์นม มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์จึงเปลี่ยนการผลิตนมโรงเรียนให้เป็นนมพาณิชย์ภายใต้แบรนด์ KU Milk เกิดความท้าทายใหม่เนื่องด้วยโรงนมเกษตรในช่วงสถานการณ์ปกติรับนมเกษตรมาผลิตวันละ 7.5 ตัน คิดเป็นนมพาสเจอร์ไรซ์กว่า 36,000 ถุงต่อวัน การจำหน่ายนมกว่า 36,000 ถุงต่อวันจึงเป็นเรื่องยาก จึงจำเป็นต้องจำหน่ายในราคาขาดทุนตามแนวพระราชดำรัสพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ขาดทุนคือกำไร

ด้วยความห่วงใยต่อทีมแพทย์ พยาบาล เจ้าหน้าที่โรงพยาบาล และมูลนิธิต่างๆ ที่ปฏิบัติงานโดยไม่มีวันหยุด จึงเกิดโครงการนมเกษตรเพื่อบุคลากรทางการแพทย์เปิดรับการสนับสนุนเงินเพื่อสั่งซื้อนมเกษตรเป็นกำลังใจให้กับทีมแพทย์ตามโรงพยาบาลกว่า 46 แห่ง เป็นนมเกษตรจำนวน 511,521 ถุง คิดเป็นเงิน 3,580,647 บาท

ต่อเนื่องด้วยโครงการ Friday KU Milk Day สร้างขวัญและกำลังใจให้กับบุคลากรผู้ปฏิบัติงานภายในมหาวิทยาลัยและร้านค้าที่ยังเปิดให้บริการในทุกวันศุกร์สัปดาห์ละ 300 ถุง เป็นนมเกษตรจำนวน 130,969 ถุง คิดเป็นเงิน 961,783 บาท

ในขณะเดียวกันยังมีผู้ได้รับความเดือดร้อนอีกมากโดยเฉพาะประชาชนในชุมชนต่างๆโดยเฉพาะเด็กๆ ที่มีโอกาสในการเข้าถึงแหล่งอาหารที่ดีและมีคุณค่าทางโภชนาการจำนวนน้อย เนื่องมาจากความขาดแคลนทางด้านรายได้ขาดความมั่นคงทางด้านอาหาร เพื่อส่งเสริมความเจริญเติบโต สุขภาวะทางโภชนาการที่ดีลดความอดอยากหิวโหย ส่งต่อความห่วงใยด้วย โครงการ KU HERO นมเกษตรเพื่อน้อง แก่น้องๆในชุมชนโดยรอบมหาวิทยาลัย เป็นนมเกษตรจำนวน 36,640 ถุง คิดเป็นเงิน 256,480 บาท